ไวรัสโรต้า...สาเหตุสำคัญของโรคอุจจาระร่วง (Rotavirus) พบได้ในอุจจาระ น้ำ อาหาร สิ่งต่างๆ ที่ปนเปื้อนเชื้อโรค เมื่อเชื้อไวรัสนี้เข้าไปในระบบทางเดินอาหารแม้เพียงเล็กน้อยก็ทำให้เกิดอาการอุจจาระร่วงรุนแรงได้ ซึ่งพบมากในเด็กเล็กและมีอาการรุนแรงกว่าเด็กโต ถึงขนาดที่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ไวรัสโรต้ายังทนต่อสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมงจึงทำให้เกิดการระบาดอย่างรวดเร็ว เด็กเล็กและผู้สูงอายุอาจมีความรุนแรงของโรคมากกว่ากลุ่มอื่น 

อาการ

• อาจมีไข้ต่ำๆ มีน้ำมูก และไอเล็กน้อยนำมาก่อน
• อาเจียน ท้องเสียถ่ายเป็นน้ำ 3-9 วัน แล้วหายได้เองโดยไม่ต้องใช้ยา
• คนที่เสียน้ำทางอุจจาระมากๆ แล้วไม่ได้รับน้ำเกลือและเกลือแร่ทดแทนเพียงพออาจจะช็อกและถึงแก่ชีวิตได้ จึงควรสังเกตอาการขาดน้ำที่เป็นสัญญาณเตือนว่าต้องรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ได้แก่ กระหายน้ำ ปากแห้ง กระวนกระวาย ซึม ตาโบ๋ กระหม่อมบุ๋ม เป็นต้น

การรักษา

การดูแลรักษาผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสโรต้าที่ดีที่สุดคือ การทดแทนน้ำในร่างกายที่สูญเสียไปเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรงและดูแลเรื่องการรับประทานอาหาร ดังนี้

• ดื่มเกลือแร่ทดแทนน้ำที่เสียไปครั้งละน้อยๆ และบ่อยๆ เลี่ยงการให้ยาปฏิชีวนะ เพราะไม่ช่วยในการรักษา
• รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและไม่มัน เช่น ข้าวต้ม งดนมและผลไม้ ถ้าเป็นเด็กเล็กไม่ต้องหยุดนมแม่
• เด็กเล็กและผู้ที่รับประทานอาหารและน้ำได้ไม่พอ มีไข้สูง ถ่ายเป็นมูกเลือด อาเจียน ซึม และเพลียมาก ควรรีบพบแพทย์ทันที

การป้องกัน

• ล้างมือบ่อยๆ ก่อนและหลังรับประทานอาหาร รวมถึงหลังเข้าห้องน้ำต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง
• รับประทานอาหารปรุงสุก ดื่มน้ำสะอาด ไม่ใช้อุปกรณ์การทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
• หมั่นทำความสะอาดสิ่งของ เครื่องใช้ และของเล่นอยู่เสมอ
• วัคซีนป้องกันอาการท้องร่วงรุนแรงจากไวรัสโรต้า ในปัจจุบันเป็นวัคซีนชนิดหยอดที่ใช้ได้เฉพาะในเด็กเล็กเท่านั้น โดยจะเริ่มหยอดครั้งแรกในเด็กช่วงอายุ 2 เดือน และจะให้ครั้งต่อไปเด็กช่วงอายุ 4 เดือน หากเด็กได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าครบถ้วน จะช่วยลดความรุนแรงของโรค แม้จะท้องร่วงจากการติดเชื้อไวรัสโรต้าก็จะมีอาการเบาลง ทั้งนี้ควรพบกุมารแพทย์ผู้ชำนาญการเพื่อรับวัคซีนและคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม

• วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้า : http://www.bangmodhospital.com/in_promotion/78