การกินเป็นเรื่องสำคัญ ในหนึ่งมื้อกินอาหารหลากหลายอย่างพร้อมกัน แต่รู้หรือไม่ ! อาหารบางอย่างหากจับคู่กินพร้อมอาหารบางอย่าง สามารถกลายเป็นโทษต่อร่างกายได้ และควรเลี่ยงจะดีกว่า มีอะไรบ้าง


ทุเรียน & น้ำอัดลม

ทั้งน้ำอัดลมและทุเรียน เป็นอาหารที่มีรสชาติหวานจัด และมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก เมื่อกินพร้อมกันจะทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป ยิ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาจจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในเลือดสูง และส่งผลเสียต่อร่างกายได้


ทุเรียน & ลำไย

เป็นผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลที่สูงมากทั้งคู่ ให้พลังงานที่สูง และเป็นผลไม้ที่ให้ฤทธิ์ร้อน หากกินคู่กันทำให้ความร้อนในร่างกายเพิ่มขึ้น อาจเกิดอาการร้อนใน และในผู้ป่วยโรคเบาหวานยิ่งควรต้องหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนพร้อมลำไย


ทุเรียน & เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ในทุเรียนมีกำมะถันอยู่มาก ซึ่งกำมะถันเป็นสารที่ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ ทำให้สารนี้จะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ทำให้เมาเร็ว ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจได้ นอกจากนี้การทานทุเรียนพร้อมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่างกายจะได้รับพลังงานในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดกระบวนการ เผาผลาญเพื่อกำจัดของเสียเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้เกิดอาการหน้าแดง ชา วิงเวียนและอาเจียน หรือหากนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันก็อาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้


นม & อาหารที่มีไฟเบอร์สูง

เส้นใย(ไฟเบอร์) หรือไฟเบอร์จากผักชนิดต่างๆ มีหน้าที่ ดูดซับไขมัน ดังนั้นการดื่มนมพร้อมกับผักจะทำให้ใยอาหารจากผัก ผลไม้ หรืออาหารที่มีเส้นใย(ไฟเบอร์) นั้นไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมและแร่ธาตุของร่างกาย ควรดื่มนมให้ห่างจากมื้ออาหาร


ยา & ชา

ทำให้มีอาการใจสั่นรุนแรงมากขึ้นอาจทำให้ได้รับคาเฟอีนที่เกินขนาดส่งผลเสีย เช่น ใจสั่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีผลต่อปริมาณยาที่ร่างกายได้รับ เช่น ทำให้ไม่ได้ผลการรักษาหรือเกิดพิษจากยาได้


ของทอด & แตงโม

ของทอดต่างๆ เป็นอาหารที่มีปริมาณน้ำมันสูง และอมน้ำมันมาก ส่วนแตงโมเป็นผลไม้ที่มีน้ำเยอะ มีฤทธิ์เย็น ทำให้ภายในร่างกายมีความเย็น และช่วยระบายได้ด้วย เมื่อทานแตงโมคู่กับของทอด จะทำให้ภายในกระเพาะอาหารเต็มไปด้วยน้ำและน้ำมัน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอาการถ่ายเหลว หรือท้องเสียได้


น้ำผึ้ง & น้ำร้อน

น้ำผึ้งไม่ควรนำมาชงพร้อมกับชาร้อนหรือน้ำร้อน เนื่องจากความร้อนจะเข้าไปทำลายวิตามินที่อยู่ในน้ำผึ้ง ดังนั้นหากต้องการดื่มชาน้ำผึ้ง ควรจะใช้ชาที่อยู่ในอุณหภูมิห้อง หรือน้ำที่มีอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไป